เมนู

เอกเทสมตฺตโต ปน องฺคเกน มาณเวน เตสํ สมภาวโต ตํ นิวตฺเตนฺโต ‘‘ฐเปตฺวา เอกเทสมตฺต’’นฺติอาทิมาหฯ กุลโกฏิปริทีปนนฺติ กุลสฺส อาทิปริทีปนํฯ ยสฺมา อตฺตโน ภคินิยา…เป.… น ชานิสฺสติ, ตสฺมา น ตสฺส มาตาปิตุมตฺตํ สนฺธาย วทติ, กุลโกฏิปริทีปนํ ปน สนฺธาย วทตีติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘อตฺถภญฺชนก’’นฺติ อิมินา กมฺมปถปตฺตํ วทติฯ คุเณติ ยถาวุตฺเต ปญฺจสีเลฯ อถาปิ สิยาติ ยทิปิ ตุมฺหากํ เอวํ ปริวิตกฺโก สิยา, ภินฺนสีลสฺสาปิ ปุน ปกติสีเล ฐิตสฺส พฺราหฺมณภาวํ วณฺณาทโย สาเธนฺตีติ เอวํ สิยาติ อตฺโถฯ ‘‘สาเธตี’’ติ ปาเฐ ‘‘วณฺโณ’’ติ กตฺตา อาจริเยน (ที. นิ. ฏี. 1.316) อชฺฌาหโฏ, นิทสฺสนญฺเจตํฯ มนฺตชาตีสุปิ หิ เอเสว นโยฯ สีลเมวาติ ปุน ปกติภูตํ สีลเมว พฺราหฺมณภาวํ สาเธสฺสติ, กสฺมาติ เจ ‘‘ตสฺมิํ หิ…เป.… วณฺณาทโย’’ติฯ ตตฺถ สมฺโมหมตฺตํ วณฺณาทโยติ วณฺณมนฺตชาติโย พฺราหฺมณภาวสฺส องฺคนฺติ สมฺโมหมตฺตเมตํ, อสมเวกฺขิตฺวา กถิตมิทํฯ

สีลปญฺญากถาวณฺณนา

[317] กถิโต พฺราหฺมเณน ปญฺโหติ ‘‘สีลวา จ โหตี’’ติอาทินา ทฺวินฺนเมว องฺคานํ วเสน ยถาปุจฺฉิโต ปญฺโห ยาถาวโต วิสฺสชฺชิโตฯ เอตฺถาติ ยถาวิสฺสชฺชิเต อตฺเถ, องฺคทฺวเย วาฯ ตสฺสาติ โสณทณฺฑสฺสฯ ยทิ เอกมงฺคํ ฐเปยฺย, อถ ปติฏฺฐาตุํ น สกฺกุเณยฺยฯ ยทิ ปน น ฐเปยฺย, อถ สกฺกุเณยฺย, กิํ ปเนส ตถา สกฺขิสฺสติ นุ โข, โนติ วีมํสนตฺถเมว เอวมาห, น ตุ เอกสฺส องฺคสฺส ฐปนียตฺตาติ วุตฺตํ โหติฯ ตถา จาห ‘‘เอวเมตํ พฺราหฺมณา’’ติอาทิฯ โธวิตตฺตาว ปริสุชฺฌนนฺติ อาห ‘‘สีลปริสุทฺธา’’ติ, สีลสมฺปตฺติยา สพฺพโส สุทฺธา อนุปกฺกิลิฏฺฐาติ อตฺโถฯ กุโต ทุสฺสีเล ปญฺญา อสมาหิตตฺตา ตสฺสฯ กุโต วา ปญฺญารหิเต ชเฬ เอฬมูเค สีลํ สีลวิภาคสฺส, สีลปริโสธนูปายสฺส จ อชานนโตฯ เอฬา มุเข คฬติ ยสฺสาติ เอฬมูโค ข-การสฺส ค-การํ กตฺวา, เอลมุโข, เอลมูโก วาฯ อิติ พหุธา ปาโฐติ ภยเภรวสุตฺตฏฺฐกถายํ (ม. นิ. อฏฺฐ. 1.48) วุตฺโตฯ ปกฏฺฐํ อุกฺกฏฺฐํ ญาณํ ปญฺญาณนฺติ กตฺวา ปากติกํ ญาณํ นิวตฺเตตุํ ‘‘ปญฺญาณ’’นฺติ วุตฺตํฯ วิปสฺสนาทิญาณญฺหิ อิธาธิปฺเปตํ, ตเทตํ ปกาเรหิ ชานนโต ปญฺญาวาติ อาห ‘‘ปญฺญาเยวา’’ติฯ

จตุปาริสุทฺธิสีเลน โธตาติ สมาธิปทฏฺฐาเนน จตุปาริสุทฺธิสีเลน สกลสํกิเลสมลวิสุทฺธิยา โธวิตา วิสุทฺธาฯ เตนาห ‘‘กถํ ปนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ โธวตีติ สุชฺฌติฯ สฏฺฐิอสีติวสฺสานีติ สฏฺฐิวสฺสานิ วา อสีติวสฺสานิ วาฯ มรณกาเลปิ, ปเคว อญฺญสฺมิํ กาเลฯ มหาสฏฺฐิวสฺสตฺเถโร วิยาติ สฏฺฐิวสฺสมหาเถโร วิยฯ เวทนาปริคฺคหมตฺตมฺปีติ เอตฺถ เวทนาปริคฺคโห นาม ยถาอุปฺปนฺนํ เวทนํ สภาวสรสโต อุปธาเรตฺวา ปุน ปทฏฺฐานโต ‘‘อยํ เวทนา ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ, โส จ ผสฺโส อนิจฺโจ ทุกฺโข วิปริณามธมฺโม’’ติ ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา ปวตฺติตวิปสฺสนาฯ เอวํ ปสฺสนฺเตน หิ สุเขน สกฺกา สา เวทนา อธิวาเสตุํ ‘‘เวทนา เอว เวทยตี’’ติฯ เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ ยถาอุปฺปนฺนํ ทุกฺขเวทนํ อนุวตฺติตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา วีถิปฏิปนฺนาย วิปสฺสนาย ตํ วิโนเทตฺวาฯ สํสุมารปติเตนาติ กุมฺภีเลน วิย ภูมิยํ อุเรน นิปชฺชมาเนนฯ ‘‘นาห’’นฺติอาทิํ ตถา สีลรกฺขณเมว ทุกฺกรนฺติ กตฺวา วทติฯ สีเล ปติฏฺฐิตสฺส หิ อรหตฺตํ หตฺถคตํเยวฯ ยถาห ‘‘สีเล ปติฏฺฐาย…เป.… วิชฏเย ชฏ’’นฺติ (สํ. นิ. 1.23, 192; เปฏโก. 22; มิ. ป. 2.9) จตูสุ ปุคฺคเลสุ อุคฺฆาฏิตญฺญุโน เอวายํ วิสโยติ อาห ‘‘อุคฺฆาฏิตญฺญุตายา’’ติฯ ปญฺญาย สีลํ โธวิตฺวาติ สีลํ อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ อขณฺฑาทิภาวาปาทเนน ปญฺญาย สุวิโสธิตํ กตฺวาฯ สนฺตติมหามตฺตวตฺถุ ธมฺมปเท (ธ. ป. อฏฺฐ. 2.สนฺติมหามตฺตวตฺถุ)ฯ

[318] ‘‘กสฺมา อาหา’’ติ อุปริเทสนาย การณํ ปุจฺฉติฯ ลชฺชา นาม ‘‘สีลสฺส จ ชาติยา จ คุณโทสปฺปกาสเนน สมเณน โคตเมน ปุจฺฉิตปญฺหํ วิสฺสชฺเชสี’’ติ ปริสาย ปญฺญาตตา, สา ตถา วิสฺสชฺชิตุมสมตฺถตาย ภิชฺชิสฺสตีติ อตฺโถ, ปฐมํ อลชฺชมาโนปิ อิทานิ ลชฺชิสฺสามีติ วุตฺตํ โหติฯ ปรมนฺติ ปมาณํฯ ‘‘เอตฺตกปรมา มย’’นฺติ ปทานํ ตุลฺยาธิกรณตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เต มย’’นฺติ วุตฺตํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สีลปญฺญาณ’’นฺติ วจนเมว อมฺหากํ ปรมํ, ตทตฺถภูตานิ ปญฺจสีลานิ, เวทตฺตยวิภาวนํ ปญฺญญฺจ ลกฺขณาทิโต นิทฺธาเรตฺวา ชานนํ นตฺถิ, เกวลํ ตตฺถ วจีปรมาว มยนฺติฯ

อยํ ปเนตฺถ อฏฺฐกถามุตฺตกนโย – เอตฺตกปรมาติ เอตฺตกอุกฺกํสโกฏิกา, ปฐมํ ปญฺหาวิสฺสชฺชนาว อมฺหากํ อุกฺกํสโกฏีติ อตฺโถฯ เตนาห ‘‘มยา สกสมยวเสน ปญฺโห วิสฺสชฺชิโต’’ติฯ ปรนฺติ อติเรกํฯ ภาสิตสฺสาติ วจนสฺส สทฺทสฺสฯ

อยํ ปน วิเสโสติ สีลนิทฺเทเส นิยฺยาตนมตฺตํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘สีลมิจฺเจว นิยฺยาติต’’นฺติฯ สามญฺญผลสุตฺเต (ที. นิ. 1.150) หิ สีลํ นิยฺยาเตตฺวาปิ ปุน สามญฺญผลมิจฺเจว นิยฺยาติตํฯ สพฺเพสมฺปิ มหคฺคตจิตฺตานํ ญาณสมฺปยุตฺตตฺตา, ฌานานญฺจ ตํ สมฺปโยคโต ‘‘อตฺถโต ปญฺญาสมฺปทา’’ติ วุตฺตํฯ ปญฺญานิทฺเทเส หิ ฌานปญฺญํ อธิฏฺฐานํ กตฺวา ปฐมํ วิปสฺสนาปญฺญา นิยฺยาติตาฯ เตนาห ‘‘วิปสฺสนาปญฺญายา’’ติอาทิฯ

โสณทณฺฑอุปาสกตฺตปฏิเวทนากถาวณฺณนา

[321] ทหโร ยุวาติ เอตฺถ ทหรวจเนน ปฐมโยพฺพนภาวํ ทสฺเสติฯ ปฐมโยพฺพนกาลคโต หิ ‘‘ทหโร’’ติ วุจฺจติฯ ปุตฺตสฺส ปุตฺโต นตฺตา นามฯ นปฺปโหตีติ น สมฺปชฺชติ, ปุตฺตนตฺตปฺปมาโณปิ น โหตีติ อตฺโถฯ ‘‘อาสนา เม ตํ วุฏฺฐาน’’นฺติ เอตสฺส อตฺถาปตฺติํ ทสฺเสตุํ ‘‘มม อคารเวนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เอตนฺติ อญฺชลิปคฺคหณํฯ อยญฺหิ ยถา ตถา อตฺตโน มหาชนสฺส สมฺภาวนํ อุปฺปาเทตฺวา โกหญฺเญน ปเร วิมฺหาเปตฺวา ลาภุปฺปาทนํ นิชิคีสนฺโต วิจรติ, ตสฺมาสฺส อติวิย กุหกภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินา กิรา’’ติอาทิํ วทติ อคารวํ นาม นตฺถีติ อคารววจนํ นาม นตฺถิ, นายํ ภควติ อคารเวน ‘‘อหญฺเจว โข ปนา’’ติอาทิมาห, อถ โข อตฺตโน ลาภปริหานิภเยเนวาติ วุตฺตํ โหติฯ

[322] ตงฺขณานุรูปายาติ ยาทิสี ตทา ตสฺส อชฺฌาสยปฺปวตฺติ, ตทนุรูปายาติ มชฺเฌปทโลเปน อตฺโถฯ ตทา ตสฺส วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตสฺส ตาทิสสฺส ญาณปริปากสฺส อภาวโต เกวลํ อพฺภุทยสนฺนิสฺสิโต เอว อตฺโถ ทสฺสิโตติ อาห ‘‘ทิฏฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ สนฺทสฺเสตฺวา’’ติ, ปจฺจกฺขโต วิภาเวตฺวาติ อตฺโถฯ กุสเล ธมฺเมติ เตภูมเก กุสลธมฺเม, อยเมตฺถ นิปฺปริยายโต อตฺโถฯ ปริยายโต ปน ‘‘จตุภูมเก’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ โลกุตฺตรกุสลสฺสปิ อายติํ ลพฺภมานตฺตาฯ